การเริ่มต้นในวงการ
10 ปีที่แล้วฉันเริ่มเข้าสู่วงการนี้ และเริ่มต้นการเดินทางที่ลำบาก หลายคนบอกว่าการเป็นพ่อค้าหรือเทรดเดอร์เต็มเวลาเหมือนการเดินทาง แต่ตอนนี้มองย้อนกลับไปมันก็เหมือนการถูกความยากลำบากลงโทษ ไม่มีใครสอน ไม่มีใครช่วย ซึ่งใช้เวลาครึ่งปีในการศึกษาสูตรและดัชนีต่างๆ ต้องเสียเงิน 10,000 ดอลลาร์ในการซื้อซอฟต์แวร์เพื่อทำการซื้อขาย แต่สุดท้ายได้ข้อสรุปกลับมาเป็นคำสามตัว: wqnmlgb!! วันหนึ่งฉันได้ไปถามผู้เชี่ยวชาญ เขาชี้ไปที่หนังสือที่มีฝุ่นอยู่เต็มโต๊ะของฉันแล้วพูดว่า 'ลูกผู้ชายญี่ปุ่น, กราฟแท่งเทียน' จนวันนี้ยังมีคนถามว่า กราฟแท่งเทียนมีความสำคัญอย่างไร คำตอบคือ นี่คือภาษาสากลอย่างหนึ่งของการเทรด: ภาษาอังกฤษ, ภาษาไม้มือ, และภาษา K-Chart หากไม่เชื่อให้ลองทำตามดูเถอะ วันนี้เมื่อมองย้อนไป สิ่งที่ได้ทำคือการยืมพลังจากตลาด โชคดีที่มีกำไรเล็กน้อย พบปะเพื่อนร่วมวงการดื่มชา ฝึกซ้อมและพูดคุยกันเกี่ยวกับการเทรด
การทำความเข้าใจการเทรด
เพื่อนร่วมวงการส่วนใหญ่จะใช้เทคนิคที่ซับซ้อนกับการเทรด ส่วนตัวฉันยังคงยึดถือกลยุทธ์การสนับสนุนและแรงต้านอย่างมั่นคง ปีที่แล้วหลายคนทำกำไรจากกลยุทธ์คลื่นและทฤษฎีการพันกัน แต่ส่วนตัวแล้ว ยังผลลัพธ์แตกต่างกัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความกระจ่างในใจว่าวิธีที่จะทำกำไรหรือขาดทุนคืออะไร มีคนพูดว่า "คลื่นจะเติบโตในสามปี และห้าปีจะทำให้เข้าใจ" แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจเรื่องนี้อย่างถ่องแท้ในเวลานี้
วิธีการเทรด
การเทรดต้องฝากความหวังไว้ที่โอกาสและโชคในตลาดอย่างแท้จริง หากคุณเข้าไปเทรดด้วยความรักและความอ่อนโยน อาจทำให้คุณต้องสูญเสียอย่างรุนแรง เช่นเดียวกับที่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ อย่างที่ Zhang Jiguang พูดไว้เกี่ยวกับการต่อสู้กับโจร: วิธีเดียวที่คุณจะชนะคือการเป็นโจรที่ดีกว่าในแบบของเขา ที่สำคัญที่สุดคือต้องให้ความเคารพต่อตลาด หากคุณสามารถทำกำไรได้ก็ควรรีบถอน และหลังจากนั้นไม่ควรมองกลับ สลับปิดเครื่องเพื่อผ่อนคลาย เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกพร้อม อย่าลืมค้นหาสัญญาณการเทรดที่เหมาะกับคุณ เช่น เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาที่เห็นดาวโจนส์ในกราฟ
ความสำเร็จในการเทรด
เมื่อคุณมีความอดทนและความมั่นใจพอสมควร และเข้าใจลึกซึ้งถึงแนวคิดที่ว่าทุกโอกาสในการเทรดเป็นการลงทุน คุณจะเริ่มมีทัศนคติที่ดี และมองโลกในแง่ดี สิ่งเหล่านี้บ่งบอกให้คุณเข้าใจว่าเงินนั้นได้มาจากไหน และจะเสียไปได้อย่างไร เมื่อกรอบการเทรดมีการดำเนินอยู่ หลังจากการเทรดนั้นคุณไม่ควรกังวลเกี่ยวกับกำไรหรือขาดทุนนานเกินไป คนที่ถูกประวัติศาสตร์เปลี่ยนตัวถือว่าโชคร้ายมาก ถึงแม้สุดท้ายมันจะมาถึงเวลาของการปรับตัวและการเปลี่ยนแปลง
บทสรุป
การเทรดไม่ใช่เพียงเรื่องของการนำข้อมูลมาวิเคราะห์ให้แก่ตนเอง การเทรดเป็นกระบวนการที่คุณต้องพูดคุยกับตัวเองอย่างต่อเนื่อง การเทรดเป็นสิ่งที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ มันเหมือนงานศิลปะของปิกัสโซหรือเสียงดนตรีของโชแปงและมันก็มีความสำคัญอยู่เสมอ
ความคิดเห็นของผู้ใช้
ยังไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น