ประเภทของนักเทรด
นักเทรดแต่ละคนล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีสไตล์ กลยุทธ์ และบุคลิกภาพของตนเอง สำหรับนักเทรดมือใหม่ การรู้ประเภทของตนเองเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะประเภทนักเทรดที่แตกต่างกันจะมีผลต่อเวลาและเทคนิคการเทรดที่ควรใช้ นักเทรดจะต้องให้ความสำคัญกับสิ่งที่แตกต่างกันไป ในที่นี้จะแบ่งประเภทนักเทรดออกเป็นบางประเภทให้ได้พิจารณาเพื่อค้นหาว่าคุณคือประเภทไหน
นักเทรดในวัน (Day Trader)
● ทำการเทรดหลายครั้งภายในวันเดียว
● ค้นหาโอกาสทำกำไรจากความผันผวนเล็กน้อยของตลาด
● ไม่มีความสนใจในความเสี่ยงข้ามคืน
● เป้าหมายในหนึ่งวันคือการเปิดสถานะ 10 ถึง 20 ครั้ง
● มีความเสี่ยงสูงมาก
● ตื่นเต้นเมื่อมีความผันผวนในตลาด
นักเทรดในวันจะทำการซื้อขายหลายครั้งในวันเดียว พวกเขาหวังที่จะใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยของตลาด และโดยปกติจะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในคืนถัดไป นักเทรดในวันมีแนวโน้มที่จะมีความเสี่ยงสูงและใช้ความผันผวนของตลาดให้อยู่ในระดับสูง พวกเขาหลีกเลี่ยงอารมณ์ที่ไม่ดีแม้จะประสบภาวะขาดทุนก็ตาม
นักเทรดตามช่วงเวลา (Swing Trader)
● มุ่งเน้นการเคลื่อนไหวของราคาและแนวโน้ม
● ค้นหาแนวโน้มที่แน่ชัดและจุดกลับตัวของราคา
● ไม่ให้ความสนใจกับข่าวกระทันหัน เช่น รายงานทางการเงินของบริษัท
● ให้ความสำคัญกับจุดเข้าและออกเฉพาะ
นักเทรดตามช่วงเวลาหวังที่จะใช้ประโยชน์สูงสุดจากการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงที่แนวโน้มชัดเจน พวกเขามักมองข้ามข่าวการเงินที่ไม่คาดคิดเพื่อมุ่งเน้นไปที่แนวโน้มราคาและการผันผวนของราคา พวกเขาไม่อนุญาตให้อารมณ์ของตนมีผลต่อการตัดสินใจซื้อขาย
นักเทรดทางเทคนิค (Technical Trader)
● ใช้แนวโน้มราคาที่เคยเกิดขึ้น
● เชื่อว่าอดีตมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นอีก
● ไม่ให้ความสนใจกับข่าวกระทันหัน เช่น รายงานทางการเงินของบริษัท เป็นต้น
● วิธีการเทรดมีความซับซ้อนและใส่ใจ
นักเทรดทางเทคนิคใช้แนวโน้มราคาประวัติเพื่อคาดการณ์แนวโน้มในอนาคต พวกเขามีความเชื่อมั่นว่าอดีตจะเกิดขึ้นอีกครั้ง พวกเขามักไม่สนใจกับข่าวที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มของตลาด โดยจะใช้ข้อมูลทางเทคนิค เช่น เส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่ เพื่อกำหนดแนวโน้มราคาและวางแผนการซื้อขาย
นักเทรดแฟundamentals (Fundamental Trader)
● วิเคราะห์ค่าความจริงของสินทรัพย์
● มองหากราคาที่สูงเกินไปหรือต่ำเกินไป
● ใส่ใจข้อมูลเศรษฐกิจ รายงานทางการเงินของบริษัท และรายงานวิจัย
นักเทรดแฟundamentals มักมีแนวโน้มที่จะวิเคราะห์ค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์ เช่น หุ้น สกุลเงิน หรือโลหะ เมื่อราคาสูงหรือต่ำเกินไป พวกเขาจะวิเคราะห์โอกาสการซื้อขายที่เป็นไปได้ในอนาคต นักเทรดแฟundamentals มักให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การซื้อขายและทำความเข้าใจปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคา
นักเทรดระยะยาว (Long-term Trader)
● ยึดตามกลยุทธ์การซื้อแล้วถือ
● มีแนวโน้มที่จะลงทุนในตลาด มากกว่าจะรอรับดอกเบี้ยจากธนาคาร
● ใช้การซื้อขายแบบสเปรดหรือสัญญาส่วนต่าง (CFDs) เป็นเครื่องมือในการป้องกันเพื่อทำให้ลดความเสี่ยงการลงทุน
นักเทรดระยะยาวมักยึดกลยุทธ์การซื้อแล้วถือ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะซื้อสินทรัพย์ เช่น หุ้น และถือสินทรัพย์นั้นไว้หลายปีจนกว่ามันจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น อัตราการเติบโตประจำปีของดัชนี FTSE 100 และดัชนี Dow Jones มักอยู่ระหว่าง 5% ถึง 10% ทำให้มันเป็นกลยุทธ์ระยะยาวที่ดีสำหรับนักลงทุนหลายคน
หมายเหตุสุดท้าย
การซื้อขายสเปรด สัญญาส่วนต่าง และการซื้อขายฟอเร็กซ์เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจ ซึ่งอาจทำให้เกิดการสูญเสียเกินกว่าเงินประกันที่วางไว้ ดังนั้นก่อนการซื้อขายใด ๆ ควรเรียนรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์แต่ละประเภทอย่างละเอียด
ความคิดเห็นของผู้ใช้
ยังไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น