การเริ่มต้น
ผมได้รู้จักกับกลุ่มคนที่มีความฝันอยากเป็นเทรดเดอร์ ทุกคนต่างกล่าวอ้างว่ารักการเทรดและหวังว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่งดงามจากมัน เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตทางการเงินของตัวเอง ผมเองก็เคยผ่านช่วงนี้เช่นกัน และได้ใช้เวลาอยู่ในนั้นมานาน ในช่วงเวลานั้นได้เขียนบันทึกไม่รู้กี่เล่ม และเมื่อได้อ่านย้อนกลับไป พบว่าคำว่า "รักการเทรด" นั้นปรากฏบ่อยครั้ง จนบางครั้งก็ดูเหมือนว่าคุณเชื่อในสิ่งที่คุณพูด รักการเทรด รักให้ตาย แต่มันอยู่แค่เรื่องเงินเท่านั้น และยังรวมถึงความรักตัวเองด้วย
ประสบการณ์ที่เจ็บปวด
จากเรื่องราวที่ได้สัมผัสและได้ยินมาเกือบไม่มีใครที่สามารถเข้ามาทำการเทรดได้ตั้งแต่เริ่มต้น ทุกคนล้วนต้องผ่านความเจ็บปวดจากการสูญเสียไปก่อน และค่อยๆ เติบโตจากประสบการณ์นั้น ความเจ็บปวดที่ถูกเข้ามาก็ทำให้รู้สึกเจ็บปวด การเอาชนะความเจ็บปวดและประสบการณ์นั้น เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างตนเอง ผ่านการกระทำเหล่านั้น เราจึงรักษาตนเองไม่ให้แตกสลาย หากคุณสูญเสียตัวตนของคุณไป ก็เหมือนกับการไม่มีล้อรถยนต์ การปกป้องตัวเองก็คือการรักษาชีวิตของคุณเอง ทุกคนมีชีวิตคือการเขียนบทประพันธ์แห่งฮีโร่ เพื่อให้เรื่องราวนี้ไม่กลายเป็นโศกนาฏกรรม เป็นสิ่งที่มีความหมายต่อชีวิต แต่ละครั้งที่ได้สู้กับการเทรด ความเจ็บปวดเกิดจากสองอย่าง หนึ่งคือการสูญเสียเงิน และอีกหนึ่งคือความรู้สึกตัวตนที่สลายไป
การเก็บรักษาความรู้สึก
ในบางครั้ง การสูญเสียตัวตนนั้นสำคัญกว่าการสูญเสียเงิน ในความเป็นจริงแล้ว หลายคนไม่ได้สูญเสียเงินมากนัก เช่นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีคนถามว่าหลงทุนไปสี่หมื่นบาท และรู้สึกไม่สบายใจ ในมุมมองของมูลค่าที่แน่นอน เงินไม่มากนักหรอก ถ้าเงินนี้เกิดจากอุบัติเหตุ รถชนเพื่อให้ต้องใช้เงิน แม้จะแอบบ่นเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีทางเลือก เพราะมันคือการใช้เงินซื้อชีวิต
การลงทุนและการเสี่ยง
แต่ถ้าหากใช้เงินไปกับการกินดื่ม เที่ยว หรือซื้อของอย่างน้อยเรายังเห็นค่า แต่การสูญเสียเงินจากการเทรด นั้นมันมีความหมายอะไร? สิ่งนั้นคือมันทำให้คุณรู้ว่าคุณเป็นคนโง่ ถูกตัดราคา และไม่ได้มีสิ่งที่คุณคิดว่าคุณชาญฉลาดหรือกล้าหาญ การที่ผู้เล่นพนันไม่ยอมลุกจากโต๊ะไม่ใช่เพราะว่าไม่สามารถเสียเงินได้ แต่เพราะไม่สามารถสูญเสียตัวตนของตัวเองได้
สภาพจิตใจของเทรดเดอร์
เมื่อมีโอกาสได้ทำงานในบริษัทฟิวเจอร์ส ผมได้มีโอกาสรู้จักลูกค้าจำนวนมากผ่านบทสนทนาและประสบการณ์การเทรดของตัวเอง ผมคิดว่าการเทรดสำหรับหลายคนคือ สภาวะรัก เกลียด กลัว และหยุดไม่ได้ รักเพราะมันสามารถทำเงินได้ เป็นการพิสูจน์ว่าตัวเองเก่ง หรือเคยทำกำไรได้จากที่เคยผ่านมา เกลียดเพราะว่าเคยสูญเสียเงินจากการเทรด หกล้มไปได้มากมาย ขาดความรู้สึกเคารพตนเอง
ความไม่แน่นอนในตลาด
กลัวความไม่แน่นอน กลัวการสูญเสีย และสุดท้ายก็ไม่รู้ว่าตัวเองที่อยู่ในสภาพที่เป็นอยู่นั้นจะสำเร็จหรือไม่ และหยุดไม่ได้เพราะยังไม่ยอมแพ้ ยังมีความมุ่งมั่นอย่างแน่นอน ยอมรับว่าสถานการณ์เช่นนี้ไม่ใช่ชีวิตที่คนธรรมดาควรมี หากใครที่อยู่ในสภาพนี้นานๆ ทั้งจิตใจและร่างกายจะต้องมีปัญหา เช่น ความวิตกกังวล โรคซึมเศร้า โรคกลัว
ราคาที่ต้องจ่าย
อัตราแลกเปลี่ยนมีความเครียดจากความผันผวนของราคา การตัดสินใจไม่ถูกทางอาจทำให้ชอบธรรมต่อการส่งผลกระทบต่อการทำงานในชีวิตประจำวัน เช่น ความสัมพันธ์ในครอบครัว สังคมปัญหาเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้จากความล้มเหลวในการเทรด ซึ่งก็กลับเป็นราคาในชีวิตที่ต้องจ่ายไว้ มีใครบ้างที่เคยคิดเรื่องนี้อย่างจริงจัง? เป็นข้อเท็จจริงที่ว่า การเทรดคืออาชีพที่มีอัตราการล้มเหลวสูง มีคน 90% ค่อนข้างจะไม่ประสบความสำเร็จในระยะยาว ซึ่งหมายความว่าความน่าจะเป็นที่โศกนาฏกรรมจะเกิดขึ้นกับตัวเองมีสูง
การตัดสินใจที่สำคัญ
ในกรณีที่เกิดขึ้นนี้ คุณพร้อมที่จะยอมรับมันไหม? หากต้องใช้ชีวิตเช่นนี้แล้ว คุณยอมรับหรือเปล่า? สำหรับหลายๆ คนที่เลือกเส้นทางการเทรด มักจะมองข้ามความยากลำบากในการพนัน ความคาดหวังก็ไม่สมจริง อีกทั้งยังมีความเกียจคร้านไม่ต้องการเข้าสังคม และไม่ต้องการมีการบริหารจัดการของคนแต่ในความเป็นจริง มีประเด็นหลักคือ การเก็งกำไรนั้นยากมาก ผลตอบแทนที่คาดหวังก็มักจะสูงขึ้น การตายเร็ว ลดการเหนื่อยล้า
การตระหนักรู้เกี่ยวกับความฝัน
มันคือความฝันทั้งหมด เพราะการหลงใหลในความฝัน ทำให้เราเริ่มทำความจริง—การเทรด ถ้าหากสามารถตระหนักถึงความฝันนั้นได้ คุณยังคงต้องการที่จะทำต่อไปไหม? หรือยังต้องการที่จะถือถึงแรงจูงใจนั้นเพื่อที่จะบอกว่าตัวเองรักการเทรด? ผมไม่ปฏิเสธว่า มีเทรดเดอร์ที่รักและสนุกกับประสบการณ์การเก็งกำไรจากใจจริง และผมเองก็รู้จักหลายคนแบบนั้น ถึงแม้จะไม่มีเงินพวกเขาก็ยังเล่นเกมนี้อยู่
บทสรุป
สำหรับนักลงทุนทั่วไป ผมคิดว่าจำเป็นต้องคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง ผมไม่ได้บอกว่าไม่ควรเทรดฟอเร็กซ์ หรือทอง แต่สามารถเข้าร่วมได้ในขอบเขตที่มีการควบคุมความเสี่ยง และเป็นช่องทางในการลงทุนก็นับว่าไม่เลว เมื่อเผชิญหน้ากับคนหนุ่มสาวที่ฝันว่าจะเป็นคนที่มีชีวิตจากการเทรด ซึ่งวนเวียนอยู่ในพลิกแพลง และข้อโต้แย้งในเรื่องกำไรนั้น ผมอยากบอกให้พวกเขาหันกลับมาถามตัวเองว่าพวกเขารักอะไรจริงๆ? ในโลกนี้แด่แค่เวลาเท่านั้นที่ไม่มีค่า นั่นคือสิ่งที่ไม่มีราคา หากเสียเวลาไปกับการเทรดนั้นไม่สามารถแก้ไขได้ในอนาคต สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ การครอบงำที่เกิดขึ้น
ความคิดเห็นของผู้ใช้
ยังไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น