บทนำ

บทความนี้พยายามวิเคราะห์ว่าปัจจัยทางจิตใจที่นักเทรดเผชิญในการเทรด ความเสี่ยง และการจัดการเงิน มีผลต่อผลลัพธ์อย่างไร เป้าหมายของการเทรดคือการทำกำไรจากการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของราคาในอนาคต อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่เราเป็นมนุษย์ เราไม่สามารถคาดการณ์อนาคตได้ ซึ่งเป็นอุปสรรคที่ไม่สามารถข้ามได้ ชัดเจนว่ามีนักเทรดมือใหม่จำนวนมากที่พยายามซื้อขายเพื่อทำกำไรจากการวิเคราะห์ข้อมูลที่เผยแพร่และรายงานทางเศรษฐกิจ แต่การทำกำไรอย่างต่อเนื่องในการเทรดมักจะยากกว่าที่พวกเขาคาดการณ์ไว้ บทความนี้จะชี้ให้เห็นว่าปัจจัยทางจิตใจขัดขวางนักเทรดมือใหม่ไม่ให้เดินทางไปสู่การทำกำไรอย่างต่อเนื่องได้อย่างไร

การกำหนดความสำเร็จในการเทรด

รูปแบบการรับรู้ของมนุษย์นั้นเป็นลักษณะทางวิวัฒนาการ หากใครบางคนออกจากถ้ำแล้วถูกหมีฆ่า คนอื่นๆ จะระมัดระวังมากขึ้นเมื่อจะออกจากถ้ำ ซึ่งเป็นผลลัพธ์ของการรับรู้ของมนุษย์ เราให้ความสำคัญกับปัจจัยทางจิตใจเพราะไม่ว่าวัตถุประสงค์จะเป็นอะไร ปัจจัยทางจิตใจมีผลกระทบอย่างสำคัญต่อความสำเร็จหรือความล้มเหลวของเรา ในระหว่างการเทรด สิ่งนี้หมายถึงเมื่อเราได้กำไร เราจะรู้สึกดี แต่เมื่อขาดทุนเราจะรู้สึกผิดหวัง ความรู้สึกเหล่านี้จะนำทางการตัดสินใจและวิธีการเทรดของเรา แต่การตัดสินใจจากความรู้สึกนี้จริง ๆ แล้วเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเข้าสู่ตลาดและทำการเทรดหรือไม่?

การศึกษาเกี่ยวกับคุณลักษณะของนักเทรด

ในการศึกษาเกี่ยวกับคุณลักษณะของนักเทรด เราพบว่า ถึงแม้ว่านักเทรดเหล่านี้จะมีการเทรดที่มีกำไรมากกว่าครึ่งในคู่เงินส่วนใหญ่ พวกเขากลับยังอยู่ในสถานะขาดทุนโดยรวม มาดูอัตราการชนะเฉลี่ยของนักเทรดในคู่เงินหลักกันดีกว่า

ความสำเร็จที่แท้จริงสำคัญกว่าความรู้สึกที่ได้รับ

ตามที่แสดงในภาพด้านบน ซึ่งสีฟ้าคืออัตราชนะ จากการมองเพียงอัตราชนะ นักเทรดจะรู้สึกพอใจกับการเทรดที่มีกำไรมากกว่าการขาดทุน แต่ในความเป็นจริง นักเทรดเหล่านี้ยังอยู่ในสถานะขาดทุนโดยเฉลี่ย โดยยังรู้สึกว่าสำเร็จ เนื่องจากการเทรดส่วนใหญ่ของพวกเขามีกำไร ความสำเร็จที่แท้จริงนั้นสำคัญกว่าความสำเร็จที่รู้สึก

ธรรมชาติของมนุษย์ขัดขวางนักเทรดมือใหม่

เช่นเดียวกับที่กล่าวในหัวข้อ บนพื้นฐานของธรรมชาติของมนุษย์ที่มักแสวงหาผลประโยชน์และหลีกเลี่ยงความเจ็บปวด (ในการเทรดแสดงให้เห็นว่าแสวงหาความรู้สึกดี และหลีกเลี่ยงความเจ็บปวด) นี่คือเหตุผลว่าทำไมการเรียนรู้การเทรดจึงยากสำหรับนักเทรดมือใหม่ ควรเข้าใจว่า ถ้านักเทรดยังขาดทุนโดยรวม แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกถึงความสำเร็จมากกว่าความเจ็บปวด พวกเขาก็ยังล้มเหลว

พฤติกรรมที่ขัดขวางการเทรด

ในงานวิจัยเกี่ยวกับคุณลักษณะของนักเทรด เราพยายามค้นหาว่าทำไมเมื่อจำนวนการเทรดที่มีกำไรเกินครึ่ง พวกเขายังคงขาดทุน ภาพด้านล่างให้คำตอบที่ชัดเจน เราจะเห็นว่าจากกราฟวงกลม สีแดงแสดงให้เห็นถึงจำนวนจุดขาดทุนเฉลี่ย ขณะที่สีน้ำเงินแสดงถึงจำนวนจุดกำไรเฉลี่ย ในกรณีส่วนใหญ่ จำนวนจุดที่นักเทรดขาดทุนจะมากกว่าจำนวนจุดที่มีกำไร นี่แสดงให้เห็นถึงว่าธรรมชาติของมนุษย์นั้นทำงานขัดขวางเราในการเทรด

ผลกระทบทางจิตใจต่อการตัดสินใจในการเทรด

เมื่อเรามีการขาดทุนลอยตัว เรามักมีความหวังว่าราคาจะกลับมาที่จุดครึ่งกลาง เราคงหวังว่าจะสามารถกู้คืนได้ เราต้องการความรู้สึกของความสำเร็จและไม่สามารถมองภาพรวมได้ รอที่จะหยุดการขาดทุนเป็นสิ่งที่อันตราย ทำให้การขาดทุนลอยตัวขยายใหญ่ขึ้น ด้วยเหตุนี้เมื่อเรามีการมีกำไรลอยตัว ธรรมชาติของมนุษย์อีกครั้งที่จะขัดขวางเรา ในขณะที่เราจ้องไปที่ราคาอย่างตื่นตระหนก เราไม่ต้องการให้กำไรที่ได้ค่อยๆ กลายเป็นขาดทุน ดังนั้นเราจึงมักจะตัดสินใจขายทำกำไรโดยเร็วเพื่อป้องกันการสูญเสีย เราต้องการความรู้สึกของความสำเร็จอีกครั้งมาขัดขวางการตัดสินใจของเรา

การต่อสู้กับธรรมชาติของมนุษย์

เราสามารถเอาชนะธรรมชาติของมนุษย์ได้จริงหรือ? แม้ว่าเราจะไม่สามารถเอาชนะธรรมชาติของมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ แต่การเอาชนะธรรมชาตินี้ในการเทรดนั้นมีความเป็นไปได้มากกว่า

ประการแรก ค้นหาการเทรดที่มีอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนมากกว่า 1:1 กล่าวอีกนัยหนึ่งคือการเทรดที่มีผลกำไรที่มีศักยภาพมากกว่าขาดทุนที่มีศักยภาพ

ประการที่สอง จำไว้ว่าการเทรดแต่ละครั้งเป็นเพียงการเทรดที่ไม่สำคัญในอาชีพการเทรดของคุณ

ประการที่สาม อย่าพยายามคาดเดาตลาด เพราะมันอาจจะไม่เกิดขึ้น

หากทำไม่ถึงเหล่านี้ได้ กำหนดจุดหยุดขาดทุนและทำกำไรในอัตราส่วนอย่างน้อย 1:1 แล้วให้การเทรดทำงานของมันเอง คุณยังสามารถปรับจุดหยุดขาดทุนเมื่อมีกำไรหรือตัดขาดทุนในจุดที่ต้องการ ไม่ว่าคุณจะมีแผนการเทรดอย่างไร สิ่งสำคัญคือวางแผนการเทรดของคุณ และทำการเทรดตามแผนของคุณ